Customer Reviews

ถ้าหากคุณชื่นชอบนิยายความรักหวานๆ มีน่ารักกุ๊กกิ๊กละก็ “รักรีเทิร์น” เป็นอีกหนึ่งนิยายรักที่อยากแนะนำค่ะ เรื่องราวความรักระหว่าง ยุรยา สาวแก่นซ่า กับมงกุฎ ตำรวจหนุ่มผู้เคยเป็นอดีตหวานใจของยุรยา มาครั้งนี้ทั้งสองได้บังเอิญพบกันบนเรือสำราญในขณะที่ยุรยามากับทีมถ่ายทำละคร โดยแท้จริงนั้นมงกุฎเดินทางมาครั้งนี้เพื่อต้องการสืบเรื่องราวการขนส่งยาเสพติดบนเรือสำราญ ภารกิจครั้งนี้เขาจึงมียุรยาเป็นผู้ช่วยอีกแรงหนึ่ง หญิงสาวจึงต้องรับเป็นผู้ช่วยเขาอีกครั้ง ทั้งเรื่องรักเรื่องงานจึงสับสนอลหม่านแต่ทว่าก็แสนหวาน (อีกครั้ง) นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อของเรื่องหัวใจรักไม่พักร้อน แต่สามารถแยกอ่านกันได้ คือเป็นแต่เพียงตัวละครที่สืบเนื่องต่อกันโดยยุรยานางเอกของเรื่องรักรีเทิร์นเป็นเพื่อนกับอันติมานางเอกจากเรื่องหัวใจรักไม่พักร้อนนั้นเอง หนังสือเล่มนี้อ่านง่ายตามสไตล์นิยายรักหวานๆ ของหนุ่มสาวที่ไม่เน้นอิงกับบุคคลหรือเหตุการณ์อะไรมาก อ่านแล้วก็ให้ความรู้สึกว่านางเอกน่ารักดี นอกจากนี้ผู้เขียนยังแทรกเรื่องราวการสืบสวนไว้พอหอมปากหอมคอ และเป็นตัวช่วยชูโรงให้นิยายมีความน่าติดตามมากขึ้น และไม่ให้มีแค่ความรักหวานแหววแสนเลี่ยนเสียทีเดียว แต่ความยาวของเนื้อเรื่องที่น้อยไปทำให้เรารู้สึกว่ายังไม่อินกับตัวละครเท่าที่ควร คือถ้าจะอ่านเพื่อความสนุกสนานก็ได้ แต่ถ้าจะอ่านเพื่อความซาบซึ้งประทับใจยังไม่ถึงขนาดนั้น น่าจะเหมาะสำหรับเด็กๆ วัยรุ่นประมาณนั้น แต่ถ้าผู้ใหญ่อยากอ่นเพิ่มความหวานก็ได้เช่นกันนะ

ถ้าหากคุณชื่นชอบนิยายความรักหวานๆ มีน่ารักกุ๊กกิ๊กละก็ “รักรีเทิร์น” เป็นอีกหนึ่งนิยายรักที่อยากแนะนำค่ะ เรื่องราวความรักระหว่าง ยุรยา สาวแก่นซ่า กับมงกุฎ ตำรวจหนุ่มผู้เคยเป็นอดีตหวานใจของยุรยา มาครั้งนี้ทั้งสองได้บังเอิญพบกันบนเรือสำราญในขณะที่ยุรยามากับทีมถ่ายทำละคร โดยแท้จริงนั้นมงกุฎเดินทางมาครั้งนี้เพื่อต้องการสืบเรื่องราวการขนส่งยาเสพติดบนเรือสำราญ ภารกิจครั้งนี้เขาจึงมียุรยาเป็นผู้ช่วยอีกแรงหนึ่ง หญิงสาวจึงต้องรับเป็นผู้ช่วยเขาอีกครั้ง ทั้งเรื่องรักเรื่องงานจึงสับสนอลหม่านแต่ทว่าก็แสนหวาน (อีกครั้ง) นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อของเรื่องหัวใจรักไม่พักร้อน แต่สามารถแยกอ่านกันได้ คือเป็นแต่เพียงตัวละครที่สืบเนื่องต่อกันโดยยุรยานางเอกของเรื่องรักรีเทิร์นเป็นเพื่อนกับอันติมานางเอกจากเรื่องหัวใจรักไม่พักร้อนนั้นเอง หนังสือเล่มนี้อ่านง่ายตามสไตล์นิยายรักหวานๆ ของหนุ่มสาวที่ไม่เน้นอิงกับบุคคลหรือเหตุการณ์อะไรมาก อ่านแล้วก็ให้ความรู้สึกว่านางเอกน่ารักดี นอกจากนี้ผู้เขียนยังแทรกเรื่องราวการสืบสวนไว้พอหอมปากหอมคอ และเป็นตัวช่วยชูโรงให้นิยายมีความน่าติดตามมากขึ้น และไม่ให้มีแค่ความรักหวานแหววแสนเลี่ยนเสียทีเดียว แต่ความยาวของเนื้อเรื่องที่น้อยไปทำให้เรารู้สึกว่ายังไม่อินกับตัวละครเท่าที่ควร คือถ้าจะอ่านเพื่อความสนุกสนานก็ได้ แต่ถ้าจะอ่านเพื่อความซาบซึ้งประทับใจยังไม่ถึงขนาดนั้น น่าจะเหมาะสำหรับเด็กๆ วัยรุ่นประมาณนั้น แต่ถ้าผู้ใหญ่อยากอ่นเพิ่มความหวานก็ได้เช่นกันนะ

จากสุดยอดวรรณกรรมแนวผจญภัยอันกึกก้อง เพชรพระอุมา จนกระทั่งจบครบ 48 เล่ม กระนั้นก็ยังไม่อาจทำให้สาวกเพชรพระอุมาเต็มสมบูรณ์ขึ้นมาได้ หากยังไม่ได้อ่าน “เจาะลึกเบื้องหลังเพชรพระอุมา” เล่มนี้ กว่า 25 ปีที่พนมเทียนเริ่มเขียนนวนิยายเรื่องนี้ ย่อมต้องมีที่มาที่ไป และเจาะลึกเบื้องหลังนี้รวบรวมไว้ เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มความเต็มอิ่มให้กับนักอ่านมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ภายในเล่มประกอบด้วยที่มาของงานเขียนชื่อก้องเรื่องนี้ จะมีที่มาที่ไปอย่างไรผู้เขียนก็ได้อธิบายไว้อย่างกระจ่างแจ้ง และขาดไม่ได้คือที่มาของแต่ละตัวละครที่รวมกันอยู่ในเพชรพระอุมาซึ่งหลายๆ คนหลงรักและผูกพัน ก็จะได้รู้ที่มาแน่นอนในเล่มนี้ ที่อ่านแล้วอาจจะกลับไปฟินอีกรอบและอาจจะอยากกลับไปหยิบเพชรพระอุมาเล่ม 1 มาอ่านอีกครั้งก็เป็นได้ รวมทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเพชรพระอุมาก็ดี หรือจะเป็นที่มาของการได้รับการตีพิมพ์จนกระทั่งนวนิยายเรื่องยาวเรื่องนี้กลายเป็นสุดยอดวรรณกรรมที่ครองใจใครๆ หลายคน ซึ่งไม่ต้องบอกอีกแล้วว่าถึงแม้เล่มนี้จะไม่ใช่นวนิยายแต่ก็อ่านแล้วให้ความรู้สึกกับเพชรพระอุมาแบบอิ่มขึ้น เต็มอารมณ์ขึ้น แนะนำมากๆ สำหรับใครที่เป็นแฟนตัวจริงเพชรพระอุมาต้องมีเล่มนี้ไว้ในครอบครองด้วยจะช่วยให้การอ่านสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จะอ่านก่อนหรืออ่านหลังก็ไม่เสียอรรถรสในการที่จะอ่านนวนิยายฉบับเต็มแต่อย่างไร แต่ถ้าอ่านหลังแล้วได้กลับไปอ่านนวนิยายอีกครั้งก็ทำให้เข้าใจเรื่องได้มากขึ้น

จากสุดยอดวรรณกรรมแนวผจญภัยอันกึกก้อง เพชรพระอุมา จนกระทั่งจบครบ 48 เล่ม กระนั้นก็ยังไม่อาจทำให้สาวกเพชรพระอุมาเต็มสมบูรณ์ขึ้นมาได้ หากยังไม่ได้อ่าน “เจาะลึกเบื้องหลังเพชรพระอุมา” เล่มนี้ กว่า 25 ปีที่พนมเทียนเริ่มเขียนนวนิยายเรื่องนี้ ย่อมต้องมีที่มาที่ไป และเจาะลึกเบื้องหลังนี้รวบรวมไว้ เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มความเต็มอิ่มให้กับนักอ่านมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ภายในเล่มประกอบด้วยที่มาของงานเขียนชื่อก้องเรื่องนี้ จะมีที่มาที่ไปอย่างไรผู้เขียนก็ได้อธิบายไว้อย่างกระจ่างแจ้ง และขาดไม่ได้คือที่มาของแต่ละตัวละครที่รวมกันอยู่ในเพชรพระอุมาซึ่งหลายๆ คนหลงรักและผูกพัน ก็จะได้รู้ที่มาแน่นอนในเล่มนี้ ที่อ่านแล้วอาจจะกลับไปฟินอีกรอบและอาจจะอยากกลับไปหยิบเพชรพระอุมาเล่ม 1 มาอ่านอีกครั้งก็เป็นได้ รวมทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเพชรพระอุมาก็ดี หรือจะเป็นที่มาของการได้รับการตีพิมพ์จนกระทั่งนวนิยายเรื่องยาวเรื่องนี้กลายเป็นสุดยอดวรรณกรรมที่ครองใจใครๆ หลายคน ซึ่งไม่ต้องบอกอีกแล้วว่าถึงแม้เล่มนี้จะไม่ใช่นวนิยายแต่ก็อ่านแล้วให้ความรู้สึกกับเพชรพระอุมาแบบอิ่มขึ้น เต็มอารมณ์ขึ้น แนะนำมากๆ สำหรับใครที่เป็นแฟนตัวจริงเพชรพระอุมาต้องมีเล่มนี้ไว้ในครอบครองด้วยจะช่วยให้การอ่านสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จะอ่านก่อนหรืออ่านหลังก็ไม่เสียอรรถรสในการที่จะอ่านนวนิยายฉบับเต็มแต่อย่างไร แต่ถ้าอ่านหลังแล้วได้กลับไปอ่านนวนิยายอีกครั้งก็ทำให้เข้าใจเรื่องได้มากขึ้น

สุดยอดนวนิยายผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ผู้ที่ชื่นชอบทั้งการอ่าน หรือจะชอบการผจญภัยห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง ภาคที่สองนี้เป็นภาคต่อจากไพรมหากาฬ ที่เป็นการเริ่มต้นเรื่องการเดินป่าไปแล้ว ภาคนี้รับประกันความสนุกและเข้มข้นขึ้นอีกแน่นอนกับ “ดงมรณะ” ซึ่งหลังจากที่คณะเดินทางโดยการนำของพรานใหญ่รพินทร์ ไพรวัลย์ ผ่านดงต่างๆ จากการตามล่าไอ้แหว่ง ช้างผีสิง และกำลังกลับเข้าไปสมทบกับกองเกวียนที่ป่าหวาย ในภาคนี้พวกเขาจะตกตัดเขาที่มีความลำบากทั้งจากภูมิประเทศและสัตว์ร้ายต่างๆ ได้เห็นทั้งไหวพริบการเอาตัวรอด น้ำใจของการช่วยเหลือกัน และการผจญภัยในรูปแบบต่างๆ ที่รวมกันเป็นเพชรพระอุมา โดยทั้งสี่เล่มนี้ก็จะนำท่านไปพบกับฉากต่างๆ แตกต่างกันออกไป ดงมรณะเล่มแรก การบุกป่าฝ่าดงที่หุบหมาหอน เจอทั้งเรื่องราวเหลือเชื่อของเสือสมิงและการตามล่าไอ้แหว่ง ช้างผีสิงที่มาตอนนี้ถูกยิงโดย ม.ร.ว.รินดา วราฤทธิ์ จนบาดเจ็บสาหัส เล่มสอง ยังเป็นการตามล่าไอ้แหว่ง และการผจญภัยที่หมู่บ้านหล่มช้าง หมู่บ้านอันที่สุดท้ายที่ชาวหล่มช้างได้พบเห็น ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ ก่อนที่จะบุกป่าเข้าไปในดงมรณะ ที่นี่ทุกคนต้องต่อสู้กับงูยักษ์ขนาดไดโนเสาร์ซึ่งหลุดมาจากป่ามรณะที่ทั้งคณะกำลังจะออกเดินทางไปนั่นเอง เรื่องราวเข้มข้น สนุกระทึกเข้าไปทุกขณะกับภาคดงมรณะนี้ พลาดไม่ได้ทีเดียว เป็นหนังสือที่รับประกันว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สุดยอดนวนิยายผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ผู้ที่ชื่นชอบทั้งการอ่าน หรือจะชอบการผจญภัยห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง ภาคที่สองนี้เป็นภาคต่อจากไพรมหากาฬ ที่เป็นการเริ่มต้นเรื่องการเดินป่าไปแล้ว ภาคนี้รับประกันความสนุกและเข้มข้นขึ้นอีกแน่นอนกับ “ดงมรณะ” ซึ่งหลังจากที่คณะเดินทางโดยการนำของพรานใหญ่รพินทร์ ไพรวัลย์ ผ่านดงต่างๆ จากการตามล่าไอ้แหว่ง ช้างผีสิง และกำลังกลับเข้าไปสมทบกับกองเกวียนที่ป่าหวาย ในภาคนี้พวกเขาจะตกตัดเขาที่มีความลำบากทั้งจากภูมิประเทศและสัตว์ร้ายต่างๆ ได้เห็นทั้งไหวพริบการเอาตัวรอด น้ำใจของการช่วยเหลือกัน และการผจญภัยในรูปแบบต่างๆ ที่รวมกันเป็นเพชรพระอุมา โดยทั้งสี่เล่มนี้ก็จะนำท่านไปพบกับฉากต่างๆ แตกต่างกันออกไป ดงมรณะเล่มแรก การบุกป่าฝ่าดงที่หุบหมาหอน เจอทั้งเรื่องราวเหลือเชื่อของเสือสมิงและการตามล่าไอ้แหว่ง ช้างผีสิงที่มาตอนนี้ถูกยิงโดย ม.ร.ว.รินดา วราฤทธิ์ จนบาดเจ็บสาหัส เล่มสอง ยังเป็นการตามล่าไอ้แหว่ง และการผจญภัยที่หมู่บ้านหล่มช้าง หมู่บ้านอันที่สุดท้ายที่ชาวหล่มช้างได้พบเห็น ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ ก่อนที่จะบุกป่าเข้าไปในดงมรณะ ที่นี่ทุกคนต้องต่อสู้กับงูยักษ์ขนาดไดโนเสาร์ซึ่งหลุดมาจากป่ามรณะที่ทั้งคณะกำลังจะออกเดินทางไปนั่นเอง เรื่องราวเข้มข้น สนุกระทึกเข้าไปทุกขณะกับภาคดงมรณะนี้ พลาดไม่ได้ทีเดียว เป็นหนังสือที่รับประกันว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สุดยอดนวนิยายผจญภัยแห่งประเทศไทยไม่มีเรื่องใดยิ่งใหญ่เท่ากับเรื่อง “เพชรพระอุมา” ของพนมเทียนแน่นอน เป็นนวนิยายที่ยาวถึง 48 เล่ม แบ่งเป็น 12 ภาค โดยภาคนี้เป็นภาคแรก ไพรมหากาฬ เป็นการเปิดฉากต้นเรื่องการพจญภัยอันน่าตื่นเต้น โดยคณะเดินทางที่ต้องการออกติดตามน้องชายที่หายไปซึ่งมุ่งไปเทือกเขาพระศิวะโดยมีขุมทรัพย์แห่งเพชรพระอุมาเป็นจุดหมาย การเดินทางครั้งนี้นำโดยพรานใหญ่ รพินทร์ ไพรวัลย์ พันโท ม.ร.ว.เชษฐา วราฤทธิ์ ผู้ซึ่งตามหา ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ ม.ร.ว.รินดา วราฤทธิ์ และพันตรีไชยันตร์ อนันตรัย ซึ่งใน 4 เล่มนี้เปิดฉากมาก็ได้เห็นความสามารถของพระเอกในการยิงสัตว์โดยการประจันหน้า และเริ่มออกเดินทางด้วยคณะเกวียนและลูกหาบ ในภาคนี้จะเป็นการปูพื้นเรื่องของป่าที่เริ่มเข้าไปก่อนจะถึงป่านรกดำอันเป็นทางไปสู่เทือกเขาพระศิวะ นอกจากความตื่นเต้นที่ได้จากการผจญภัยของนวนิยายแล้ว ยังสอดแทรกความรู้เรื่องปืน การล่าสัตว์ ธรรมชาติของป่า และความรื่นรมย์ที่คณะเดินทางได้ผ่านพบอีกด้วย อ้อ มีฉากน่ารักๆ ของพรานใหญ่กับ ม.ร.ว.รินดา ให้ฟินอีกด้วย แต่ถ้าให้ระดับความตื่นเต้นผจญภัยภาคนี้ยังถือว่าค่อนข้างน้อยเพราะยังไม่ได้เข้าไปในป่าที่ลึก แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจวางลงได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าอ่านกันจนวางไม่ลงทีเดียว นับเป็นนวนิยายที่ “ไม่อ่านไม่ได้” เป็นอีกหนึ่งนวนิยายที่ห้ามพลาดและถ้าจะให้ดีต้องเริ่มอ่านจากภาคแรกไพรมหากาฬนี่แหละเพื่อต่อยอดความสนุกระทึกใจของภาคต่อๆ ไปให้มากยิ่งขึ้น

สุดยอดนวนิยายผจญภัยแห่งประเทศไทยไม่มีเรื่องใดยิ่งใหญ่เท่ากับเรื่อง “เพชรพระอุมา” ของพนมเทียนแน่นอน เป็นนวนิยายที่ยาวถึง 48 เล่ม แบ่งเป็น 12 ภาค โดยภาคนี้เป็นภาคแรก ไพรมหากาฬ เป็นการเปิดฉากต้นเรื่องการพจญภัยอันน่าตื่นเต้น โดยคณะเดินทางที่ต้องการออกติดตามน้องชายที่หายไปซึ่งมุ่งไปเทือกเขาพระศิวะโดยมีขุมทรัพย์แห่งเพชรพระอุมาเป็นจุดหมาย การเดินทางครั้งนี้นำโดยพรานใหญ่ รพินทร์ ไพรวัลย์ พันโท ม.ร.ว.เชษฐา วราฤทธิ์ ผู้ซึ่งตามหา ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ ม.ร.ว.รินดา วราฤทธิ์ และพันตรีไชยันตร์ อนันตรัย ซึ่งใน 4 เล่มนี้เปิดฉากมาก็ได้เห็นความสามารถของพระเอกในการยิงสัตว์โดยการประจันหน้า และเริ่มออกเดินทางด้วยคณะเกวียนและลูกหาบ ในภาคนี้จะเป็นการปูพื้นเรื่องของป่าที่เริ่มเข้าไปก่อนจะถึงป่านรกดำอันเป็นทางไปสู่เทือกเขาพระศิวะ นอกจากความตื่นเต้นที่ได้จากการผจญภัยของนวนิยายแล้ว ยังสอดแทรกความรู้เรื่องปืน การล่าสัตว์ ธรรมชาติของป่า และความรื่นรมย์ที่คณะเดินทางได้ผ่านพบอีกด้วย อ้อ มีฉากน่ารักๆ ของพรานใหญ่กับ ม.ร.ว.รินดา ให้ฟินอีกด้วย แต่ถ้าให้ระดับความตื่นเต้นผจญภัยภาคนี้ยังถือว่าค่อนข้างน้อยเพราะยังไม่ได้เข้าไปในป่าที่ลึก แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจวางลงได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าอ่านกันจนวางไม่ลงทีเดียว นับเป็นนวนิยายที่ “ไม่อ่านไม่ได้” เป็นอีกหนึ่งนวนิยายที่ห้ามพลาดและถ้าจะให้ดีต้องเริ่มอ่านจากภาคแรกไพรมหากาฬนี่แหละเพื่อต่อยอดความสนุกระทึกใจของภาคต่อๆ ไปให้มากยิ่งขึ้น

อยากได้ไกด์บุ๊กที่จะพาคุณไปเที่ยวบุกตะลุยญี่ปุ่นใช่ไหม ?
อยากได้ไกด์บุ๊คเล่มเดียวครบ กิน เที่ยว พัก ช็อป หรือตลอดกระทั่งวิธีเดินทางใช่ไหม ?
อยากได้ไกด์บุ๊คธีมปาร์คสวนสนุกญี่ปุ่นใช่ไหม ? ฯลฯ ที่คุณอยากได้ข้อมูลเพื่อเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่น จะไม่ใช่เล่มนี้... เพราะนี่คือ ect. In Japan ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอื่นๆ อีกมากมายในญี่ปุ่น
ใช่แล้ว! หนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นเล่มนี้ไม่ใช่ไกด์บุ๊คที่จะพาคุณไปเที่ยวตามแบบฉบับทั่วๆ ไป แต่ตั้งใจจะพาให้คุณไปหลงกับเส้นทางที่แปลก ใหม่ และไม่น่าจะซ้ำกับใคร เพียงแค่เดินออกมาจากเส้นทางอันเป็นมหานิยมอย่าง โตเกียว ชินจูกุ ชิบุย่า ฮาราจูกุ แล้วออกมาสัมผัสกับวิถีญี่ปุ่นที่เป็นของจริงในแบบชีวิตประจำวันของพวกเขา ไปในที่ที่ไม่เคยไป ออกเดินทางไปกับผู้เขียน ด้วยภาษาของผู้เขียนที่ง่ายๆ ให้อารมณ์เหมือนเพื่อนเล่าเรื่องให้ฟัง สบายๆ แต่ทว่าก็แทรกไปด้วยรสชาติแห่งการท่องเที่ยวที่ซุกซนผจญภัยนิดๆ อย่างที่เขาว่า “แกล้งหลง” คือหลงออกมาจากเส้นทางที่คนไปกันจนเกร่อ เปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ในการเดินทางไปกับหนังสือเล่มนี้ เหมาะทั้งสำหรับคนที่ไม่เคยไปอยากอินกับประสบการณ์ หรือกำลังจะไปและอยากเพิ่มเติมข้อมูลให้กับการเดินทาง หรือไปมาแล้วอยากรำลึกความทรงจำขณะเดินทาง เผื่ออยากจะย้อนกลับไปอีกครั้ง ก็ได้เช่นกัน และใช่ว่าอ่านจบจะตามรอยอย่างผู้เขียนบ้าง ซึ่งก็ได้เช่นกัน แต่ไม่แน่ว่าถ้าได้อ่านเล่มนี้แล้วอยากจะมีเส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นของคุณเองบ้างก็ได้ ก็เก๋ดีเหมือนกันนะ

อยากได้ไกด์บุ๊กที่จะพาคุณไปเที่ยวบุกตะลุยญี่ปุ่นใช่ไหม ?
อยากได้ไกด์บุ๊คเล่มเดียวครบ กิน เที่ยว พัก ช็อป หรือตลอดกระทั่งวิธีเดินทางใช่ไหม ?
อยากได้ไกด์บุ๊คธีมปาร์คสวนสนุกญี่ปุ่นใช่ไหม ? ฯลฯ ที่คุณอยากได้ข้อมูลเพื่อเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่น จะไม่ใช่เล่มนี้... เพราะนี่คือ ect. In Japan ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอื่นๆ อีกมากมายในญี่ปุ่น
ใช่แล้ว! หนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นเล่มนี้ไม่ใช่ไกด์บุ๊คที่จะพาคุณไปเที่ยวตามแบบฉบับทั่วๆ ไป แต่ตั้งใจจะพาให้คุณไปหลงกับเส้นทางที่แปลก ใหม่ และไม่น่าจะซ้ำกับใคร เพียงแค่เดินออกมาจากเส้นทางอันเป็นมหานิยมอย่าง โตเกียว ชินจูกุ ชิบุย่า ฮาราจูกุ แล้วออกมาสัมผัสกับวิถีญี่ปุ่นที่เป็นของจริงในแบบชีวิตประจำวันของพวกเขา ไปในที่ที่ไม่เคยไป ออกเดินทางไปกับผู้เขียน ด้วยภาษาของผู้เขียนที่ง่ายๆ ให้อารมณ์เหมือนเพื่อนเล่าเรื่องให้ฟัง สบายๆ แต่ทว่าก็แทรกไปด้วยรสชาติแห่งการท่องเที่ยวที่ซุกซนผจญภัยนิดๆ อย่างที่เขาว่า “แกล้งหลง” คือหลงออกมาจากเส้นทางที่คนไปกันจนเกร่อ เปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ในการเดินทางไปกับหนังสือเล่มนี้ เหมาะทั้งสำหรับคนที่ไม่เคยไปอยากอินกับประสบการณ์ หรือกำลังจะไปและอยากเพิ่มเติมข้อมูลให้กับการเดินทาง หรือไปมาแล้วอยากรำลึกความทรงจำขณะเดินทาง เผื่ออยากจะย้อนกลับไปอีกครั้ง ก็ได้เช่นกัน และใช่ว่าอ่านจบจะตามรอยอย่างผู้เขียนบ้าง ซึ่งก็ได้เช่นกัน แต่ไม่แน่ว่าถ้าได้อ่านเล่มนี้แล้วอยากจะมีเส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นของคุณเองบ้างก็ได้ ก็เก๋ดีเหมือนกันนะ

หนังสือท่องเที่ยวของแพรวสำนักพิมพ์ท่องโลก ชุด Go กระบี่ ที่ภายในเล่มอัดแน่นด้วยข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่แบบครบจัดเต็ม พิมพ์สี่สีสวยงาม พร้อมแผนที่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยภายในเล่มแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยมีทั้งส่วนแนะนำจังหวัดกระบี่ ประวัติความเป็นมาต่างๆ เพื่อให้เราเข้าใจแต่ละสถานที่มากขึ้น วิธีการเดินทางทั้งรถส่วนตัว รถไฟ เครื่องบิน หรือรถทัวร์ แนะนำที่เที่ยวเด็ดๆ ที่มาแล้วต้องห้ามพลาด ทั้งเที่ยวแบบชิลๆ อย่างทะเล หรือจะผจญภัยท้าทายอย่างการปีนเขา พร้อมตัวอย่างการจัดทริปแบบ 3 วัน 2 คืน ที่รับรองว่าเก็บประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เด็ดๆ ได้ครบ และตามสโลแกนของหนังสือ คือ ชม ชิม ช็อป และที่พัก ภายในเล่มจึงได้แนะนำร้านอาหารขึ้นชื่อไว้ให้เลือกชิมอย่างจุใจ โดยเฉพาะถ้าไปกระบี่ต้องไม่พลาดหอยชักตีน เมนูขึ้นชื่อที่ไปแล้วต้องชิมให้ได้ ชม ชิม แล้วยังต้องช็อปหนังสือเล่มนี้ก็แนะนำสถานที่ช็อปอย่างจุใจทั้งของกินของที่ระลึกไว้ให้ซื้อไปฝากเพื่อนๆ หรือจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกให้ตัวเอง อ้อ! ไม่ว่าจะเป็นร้านให้ชิมให้ช็อปในเล่มเขาก็มีเบอร์โทรศัพท์เผื่อใครอยากสอบถามก็โทร.ได้เลย สะดวกมากๆ และที่พักก็มีนำเสนออย่างจุใจทั้งแนะนำพร้อมภาพประกอบให้พิจารณาแล้วยังมีราคาให้ตัดสินใจเลือกก่อนจะโทรไปสอบถามเพราะก็มีเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ภายในเล่ม คือถ้าจะไปกระบี่ละก็พกเล่มนี้ไปก็ใช้ได้ทีเดียวเล่มเดียวไม่ต้องกลัวหลงหรือไปไม่ถูก หรือจะไม่รู้ไปเที่ยวที่ไหน กินอะไร พักที่ไหนดี ก็เพียงแค่เปิดเลือกได้ตามอัธยาศัย

หนังสือท่องเที่ยวของแพรวสำนักพิมพ์ท่องโลก ชุด Go กระบี่ ที่ภายในเล่มอัดแน่นด้วยข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่แบบครบจัดเต็ม พิมพ์สี่สีสวยงาม พร้อมแผนที่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยภายในเล่มแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยมีทั้งส่วนแนะนำจังหวัดกระบี่ ประวัติความเป็นมาต่างๆ เพื่อให้เราเข้าใจแต่ละสถานที่มากขึ้น วิธีการเดินทางทั้งรถส่วนตัว รถไฟ เครื่องบิน หรือรถทัวร์ แนะนำที่เที่ยวเด็ดๆ ที่มาแล้วต้องห้ามพลาด ทั้งเที่ยวแบบชิลๆ อย่างทะเล หรือจะผจญภัยท้าทายอย่างการปีนเขา พร้อมตัวอย่างการจัดทริปแบบ 3 วัน 2 คืน ที่รับรองว่าเก็บประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เด็ดๆ ได้ครบ และตามสโลแกนของหนังสือ คือ ชม ชิม ช็อป และที่พัก ภายในเล่มจึงได้แนะนำร้านอาหารขึ้นชื่อไว้ให้เลือกชิมอย่างจุใจ โดยเฉพาะถ้าไปกระบี่ต้องไม่พลาดหอยชักตีน เมนูขึ้นชื่อที่ไปแล้วต้องชิมให้ได้ ชม ชิม แล้วยังต้องช็อปหนังสือเล่มนี้ก็แนะนำสถานที่ช็อปอย่างจุใจทั้งของกินของที่ระลึกไว้ให้ซื้อไปฝากเพื่อนๆ หรือจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกให้ตัวเอง อ้อ! ไม่ว่าจะเป็นร้านให้ชิมให้ช็อปในเล่มเขาก็มีเบอร์โทรศัพท์เผื่อใครอยากสอบถามก็โทร.ได้เลย สะดวกมากๆ และที่พักก็มีนำเสนออย่างจุใจทั้งแนะนำพร้อมภาพประกอบให้พิจารณาแล้วยังมีราคาให้ตัดสินใจเลือกก่อนจะโทรไปสอบถามเพราะก็มีเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ภายในเล่ม คือถ้าจะไปกระบี่ละก็พกเล่มนี้ไปก็ใช้ได้ทีเดียวเล่มเดียวไม่ต้องกลัวหลงหรือไปไม่ถูก หรือจะไม่รู้ไปเที่ยวที่ไหน กินอะไร พักที่ไหนดี ก็เพียงแค่เปิดเลือกได้ตามอัธยาศัย

ภายใต้ขอบฟ้าแห่งทะเลทราย สองชีวิตที่ซึ่งแตกต่างได้มาบรรจบพบกัน กาเรม วณิพกพเนจรสาวที่ร่อนเร่เล่นดนตรีเพื่อแลกเศษเงินประทังชีวิตอันแสนโดดเดี่ยวและไร้ที่พึ่ง ได้รับการช่วยเหลือจากถูกตามล่าโดยชีคหนุ่มรูปงาม อาร์เรมัล และเป็นผู้ที่เข้าใจผิดว่ากาเรมเป็นหนุ่มน้อย ด้วยสภาพที่แรกเจอกันเธอช่างขมุกมอมไม่ต่างกับเด็กผู้ชายซนๆ คนหนึ่ง เขาช่วยชีวิตเธอไว้ และเธอตอบแทนเขาด้วยการติดตามรับใช้ในนามหนุ่มน้อยกาเรม ทาสผู้ซื่อสัตย์ แต่ชีคอาร์เรมัลนี่ซิที่นับวันยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งหวั่นไหวจนเผลอใจรักหนุ่มน้อยกาเรมเข้า ในขณะที่เขาเองก็มี ดาเรีย คู่หมั้นสาวที่เขากำลังตามหาตัว แล้วรักครั้งนี้จะลงเอยยังไงต้องติดตามต่อภายในเล่ม นิยายแนวทะเลทรายชวนฝันอีกหนึ่งเรื่อง ผลงานของอาคาเซีย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องแรกๆ แต่ก็เขียนออกมาได้ดี ทั้งตัวละคร สถานที่ต่างๆ ในเรื่องชวนให้จินตนาการตามได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ชื่นชอบแนวทะเลทราย เตรียมใจละลายกับชีคมาดเข้มในเรื่องได้เลย ทั้งหล่อทั้งเก่ง แถมมีฉากฟินๆ เข้าพระเข้านางกันน่าเอ็นดู และไม่ใช่แค่ฉากรักหวานแหววเท่านั้นยังมีฉากรบกันระหว่างชีคและกองโจรท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ แต่ยังไม่ร้อนเท่าสงครามแห่งรักที่ก่อเกิดขึ้นจากดวงใจของกาเรมและชีคอาร์เรมัล เรื่องนี้จะออกแนวรักหวานๆ ถ้าใครชอบเรื่องแนวนี้ก็ไม่มีผิดหวัง เพราะพระนางในเรื่องไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนแนวโรแมนติกคอมเมดี้ แต่เรื่องนี้จะออกแนวโรแมนติกดราม่า ถ้าชอบแนวนี้ละก็...ใช่เลย

ภายใต้ขอบฟ้าแห่งทะเลทราย สองชีวิตที่ซึ่งแตกต่างได้มาบรรจบพบกัน กาเรม วณิพกพเนจรสาวที่ร่อนเร่เล่นดนตรีเพื่อแลกเศษเงินประทังชีวิตอันแสนโดดเดี่ยวและไร้ที่พึ่ง ได้รับการช่วยเหลือจากถูกตามล่าโดยชีคหนุ่มรูปงาม อาร์เรมัล และเป็นผู้ที่เข้าใจผิดว่ากาเรมเป็นหนุ่มน้อย ด้วยสภาพที่แรกเจอกันเธอช่างขมุกมอมไม่ต่างกับเด็กผู้ชายซนๆ คนหนึ่ง เขาช่วยชีวิตเธอไว้ และเธอตอบแทนเขาด้วยการติดตามรับใช้ในนามหนุ่มน้อยกาเรม ทาสผู้ซื่อสัตย์ แต่ชีคอาร์เรมัลนี่ซิที่นับวันยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งหวั่นไหวจนเผลอใจรักหนุ่มน้อยกาเรมเข้า ในขณะที่เขาเองก็มี ดาเรีย คู่หมั้นสาวที่เขากำลังตามหาตัว แล้วรักครั้งนี้จะลงเอยยังไงต้องติดตามต่อภายในเล่ม นิยายแนวทะเลทรายชวนฝันอีกหนึ่งเรื่อง ผลงานของอาคาเซีย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องแรกๆ แต่ก็เขียนออกมาได้ดี ทั้งตัวละคร สถานที่ต่างๆ ในเรื่องชวนให้จินตนาการตามได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ชื่นชอบแนวทะเลทราย เตรียมใจละลายกับชีคมาดเข้มในเรื่องได้เลย ทั้งหล่อทั้งเก่ง แถมมีฉากฟินๆ เข้าพระเข้านางกันน่าเอ็นดู และไม่ใช่แค่ฉากรักหวานแหววเท่านั้นยังมีฉากรบกันระหว่างชีคและกองโจรท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ แต่ยังไม่ร้อนเท่าสงครามแห่งรักที่ก่อเกิดขึ้นจากดวงใจของกาเรมและชีคอาร์เรมัล เรื่องนี้จะออกแนวรักหวานๆ ถ้าใครชอบเรื่องแนวนี้ก็ไม่มีผิดหวัง เพราะพระนางในเรื่องไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนแนวโรแมนติกคอมเมดี้ แต่เรื่องนี้จะออกแนวโรแมนติกดราม่า ถ้าชอบแนวนี้ละก็...ใช่เลย

นิยายรักสนุกสนานสไตล์โรแมนติกคอมเมดี้ เมื่อสาวน้อยแก่นซ่า นลิน ต้องการหลบไปรักษาแผลใจจากพี่ชายบุญธรรมที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานไปหมาดๆ ที่นั่นเธอได้พบกับ ปวาฬ น้าชายของเพื่อนสนิท ผู้เป็นเจ้าของเรือนแพที่นลินพักอาศัยอยู่ เขาเป็นหนุ่มมาดเซอร์สุดกวน ที่คอยประสาทนลินอยู่เสมอ ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ลงรอยกันเสียด้วยซ้ำไป แต่เพื่อนสนิทของนลินก็อุตส่าห์ช่วยเชียร์ให้ทั้งคู่ลงเอยกัน แต่คงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เรื่องราวสุดป่วนชวนให้น่ารักและลุ้นไปกับความรักของหนุ่มสาวคู่นี้จึงเกิดขึ้น นิยายชวนติดตามอีกเรื่องของอาคาเซีย ที่เป็นเรื่องนอกเหนือจากแนวทะเลทราย แต่เรื่องนี้ก็สนุกไม่แพ้แนวทะเลทรายที่ผ่านๆ มาเลย ส่วนตัวเราชอบพระเอกสไตล์นี้ด้วยแหละ เงียบ ขรึม กวนประสาท และร้ายราวกับอสูร ส่วนนางเอกของเรื่องก็ใสๆ น่ารัก แต่ก็อวดเก่งดื้อดึงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ชอบเวลาที่พระนางมาเจอกันต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกันอยู่ร่ำไป อ่านไปก็ลุ้นๆ ฟินๆ ไป อาจไม่จิกหมอนมากแต่ก็สนุกจนไม่อยากจะวางเช่นเดียวกัน นอกจากจะมีฉากฮาๆ แล้ว ก็ยังมีฉากดราม่าเรียกน้ำตาทั้งจากฝ่ายชายฝ่ายหญิงซึ่งก็ทำเอาเราคล้อยตามได้ไม่ยาก และแน่นอนว่าต้องมีฉากเลิฟซีนอย่างพลาดไม่ได้ตามสไตล์นิยายรัก แต่ก็มีแค่พอให้ลุ้นๆ ไม่ถึงกับอ่านไปก็เจออยู่เรื่อยๆ จะเน้นการต่อปากต่อคำพระนางมากกว่า ถ้าชื่นชอบนิยายแนวนี้ก็ก็ขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ

นิยายรักสนุกสนานสไตล์โรแมนติกคอมเมดี้ เมื่อสาวน้อยแก่นซ่า นลิน ต้องการหลบไปรักษาแผลใจจากพี่ชายบุญธรรมที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานไปหมาดๆ ที่นั่นเธอได้พบกับ ปวาฬ น้าชายของเพื่อนสนิท ผู้เป็นเจ้าของเรือนแพที่นลินพักอาศัยอยู่ เขาเป็นหนุ่มมาดเซอร์สุดกวน ที่คอยประสาทนลินอยู่เสมอ ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ลงรอยกันเสียด้วยซ้ำไป แต่เพื่อนสนิทของนลินก็อุตส่าห์ช่วยเชียร์ให้ทั้งคู่ลงเอยกัน แต่คงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เรื่องราวสุดป่วนชวนให้น่ารักและลุ้นไปกับความรักของหนุ่มสาวคู่นี้จึงเกิดขึ้น นิยายชวนติดตามอีกเรื่องของอาคาเซีย ที่เป็นเรื่องนอกเหนือจากแนวทะเลทราย แต่เรื่องนี้ก็สนุกไม่แพ้แนวทะเลทรายที่ผ่านๆ มาเลย ส่วนตัวเราชอบพระเอกสไตล์นี้ด้วยแหละ เงียบ ขรึม กวนประสาท และร้ายราวกับอสูร ส่วนนางเอกของเรื่องก็ใสๆ น่ารัก แต่ก็อวดเก่งดื้อดึงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ชอบเวลาที่พระนางมาเจอกันต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกันอยู่ร่ำไป อ่านไปก็ลุ้นๆ ฟินๆ ไป อาจไม่จิกหมอนมากแต่ก็สนุกจนไม่อยากจะวางเช่นเดียวกัน นอกจากจะมีฉากฮาๆ แล้ว ก็ยังมีฉากดราม่าเรียกน้ำตาทั้งจากฝ่ายชายฝ่ายหญิงซึ่งก็ทำเอาเราคล้อยตามได้ไม่ยาก และแน่นอนว่าต้องมีฉากเลิฟซีนอย่างพลาดไม่ได้ตามสไตล์นิยายรัก แต่ก็มีแค่พอให้ลุ้นๆ ไม่ถึงกับอ่านไปก็เจออยู่เรื่อยๆ จะเน้นการต่อปากต่อคำพระนางมากกว่า ถ้าชื่นชอบนิยายแนวนี้ก็ก็ขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ

พ็อกเก็ตบุ๊คท่องเที่ยวสไตล์แม็กกาซีน ที่นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเล็กๆ ริมโขง ‘เชียงของ’ อำเภอเล็กๆ สงบน่าพักที่จังหวัดเชียงราย ‘เชียงคาน’ เมืองริมน้ำกับเอกลักษณ์บ้านไม้เก่า และตักบาตรข้าวเหนียวเช่นเดียวกับฝั่งลาว ‘โขงเจียม’ อาทิตย์แรกแห่งสยาม และแม่น้ำโขงสองสีอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ‘จำปาสัก’ ดินแดนลาวใต้ ที่ยังงดงามด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรม ‘สิบสองปันนา’ ที่ซึ่งได้รับขนานนามว่าบ้านพี่เมืองน้องของไทย ซึ่งมีวิถีเฉกเช่นฝั่งไทยของเรา เรียกได้ว่าเล่มนี้รวมเมืองริมน้ำโขงไว้ถึงสามประเทศ ภาพประกอบสีสันสวยงาม อ่านเข้าใจง่าย แต่เนื่องจากว่าเป็นหนังสือกึ่งพ็อกเก็ตบุ๊คและแม็กกาซีน นอกจากจะแนะนำที่เที่ยวแล้ว ยังมีบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับลำน้ำโขง แฟชั่นเสื้อผ้า แทรกเข้ามาตามสไตล์แม็กกาซีน ฉะนั้นแล้วทำให้ในส่วนข้อมูลท่องเที่ยวจะไม่ได้แนะนำมากนักอย่างหนังสือนำเที่ยวทั่วไป เหมาะสำหรับเป็นข้อมูลประกอบการท่องเที่ยวเสียมากกว่า ไม่เหมาะสำหรับพกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ถ้าจะพูดถึงข้อดีของหนังสือเล่มนี้ก็คือเนื้อหาดีมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังอยากหาสถานที่ท่องเที่ยว และยังได้อ่านความคิดของเหล่านักคิดนักเขียนเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ภาพประกอบสวยงาม ขนาดกำลังพอเหมาะ แต่ถ้าจะมีข้อด้อยกว่าหนังสือนำเที่ยวทั่วๆ ไปคือ ข้อมูลการท่องเที่ยวยังน้อย ไม่มีแผนที่ ไม่มีแนะนำที่พัก ที่กิน มากพอสำหรับเก็บไว้เป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยว ทำให้อ่านเพื่อเป็นข้อมูลได้ แต่ไม่เหมาะหากจะนำเล่มนี้ไปเที่ยวด้วยเพราะอาจจะไม่ได้ใช้จริงเวลาเดินทาง ฉะนั้นซื้อเก็บไว้อ่านเพื่อสะสมข้อมูลดีๆ ไว้สำหรับการท่องเที่ยวจะเหมาะมาก

พ็อกเก็ตบุ๊คท่องเที่ยวสไตล์แม็กกาซีน ที่นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเล็กๆ ริมโขง ‘เชียงของ’ อำเภอเล็กๆ สงบน่าพักที่จังหวัดเชียงราย ‘เชียงคาน’ เมืองริมน้ำกับเอกลักษณ์บ้านไม้เก่า และตักบาตรข้าวเหนียวเช่นเดียวกับฝั่งลาว ‘โขงเจียม’ อาทิตย์แรกแห่งสยาม และแม่น้ำโขงสองสีอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ‘จำปาสัก’ ดินแดนลาวใต้ ที่ยังงดงามด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรม ‘สิบสองปันนา’ ที่ซึ่งได้รับขนานนามว่าบ้านพี่เมืองน้องของไทย ซึ่งมีวิถีเฉกเช่นฝั่งไทยของเรา เรียกได้ว่าเล่มนี้รวมเมืองริมน้ำโขงไว้ถึงสามประเทศ ภาพประกอบสีสันสวยงาม อ่านเข้าใจง่าย แต่เนื่องจากว่าเป็นหนังสือกึ่งพ็อกเก็ตบุ๊คและแม็กกาซีน นอกจากจะแนะนำที่เที่ยวแล้ว ยังมีบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับลำน้ำโขง แฟชั่นเสื้อผ้า แทรกเข้ามาตามสไตล์แม็กกาซีน ฉะนั้นแล้วทำให้ในส่วนข้อมูลท่องเที่ยวจะไม่ได้แนะนำมากนักอย่างหนังสือนำเที่ยวทั่วไป เหมาะสำหรับเป็นข้อมูลประกอบการท่องเที่ยวเสียมากกว่า ไม่เหมาะสำหรับพกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ถ้าจะพูดถึงข้อดีของหนังสือเล่มนี้ก็คือเนื้อหาดีมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังอยากหาสถานที่ท่องเที่ยว และยังได้อ่านความคิดของเหล่านักคิดนักเขียนเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ภาพประกอบสวยงาม ขนาดกำลังพอเหมาะ แต่ถ้าจะมีข้อด้อยกว่าหนังสือนำเที่ยวทั่วๆ ไปคือ ข้อมูลการท่องเที่ยวยังน้อย ไม่มีแผนที่ ไม่มีแนะนำที่พัก ที่กิน มากพอสำหรับเก็บไว้เป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยว ทำให้อ่านเพื่อเป็นข้อมูลได้ แต่ไม่เหมาะหากจะนำเล่มนี้ไปเที่ยวด้วยเพราะอาจจะไม่ได้ใช้จริงเวลาเดินทาง ฉะนั้นซื้อเก็บไว้อ่านเพื่อสะสมข้อมูลดีๆ ไว้สำหรับการท่องเที่ยวจะเหมาะมาก

หนังสืออีกเล่มที่อ่านเพลินค่ะ อ่านไปยิ้มไป พล็อตเรื่องอาจจะไม่ใหม่ คือนางเอกปลอมเป็นชายหนุ่มตามคำสั่งของเจ้านายเอาแต่ใจตัวที่สั่งให้ อรสา พี่สาวนางเอกซึ่งเป็นเลขานุการของ เฉินป๋อหลิน พระเอกหาเลขาส่วนตัวที่เป็นผู้ชายให้เขาอย่างด่วนที่สุด เมษิยานี นักศึกษาจบใหม่จึงต้องปลอมเป็นเลขาหน้าหวานที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดกับ เฉินป๋อหลิน ลูกชายมาเฟียใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง ผู้ซึ่งเจ้าชู้ มากมายด้วยสาวสวยเซ็กซี่แวดล้อม ถึงขนาดที่พามาพลอดรักกันในห้องทำงาน โดยไม่เกรงใจเลขาหนุ่มของเขาทั้งสิ้น แต่ทว่าเขากลับรู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดเลขาหนุ่มหน้าหวาน จนเขาเองก็บอกไม่ถูกและเกือบเข้าใจผิดว่าตัวเองชอบเพศเดียวกัน แต่ความลับก็ไม่มีในโลก พระเอกรู้และยิ่งกว่ารู้คือเขาหลงรักเลขาของเขาเสียแล้ว โดยรวมนิยายเรื่องนี้คืออ่านสนุก ได้ครบรส ทั้งฮา ดราม่า มีแอ็คชั่นอีกด้วย (พระเอกเป็นลูกมาเฟีย ก็ต้องบู๊กันเป็นธรรมดา) และถึงแม้อย่างที่บอกไปว่าพล็อตเรื่องไม่ได้ใหม่นัก แต่ผู้เขียนก็เขียนได้สนุก อ่านเพลิน น่าติดตามตลอดทั้งเล่ม ด้วยภาษาง่ายๆ เล่าเรื่องกระชับ มีฉากรักให้ได้ตื่นเต้นเล็กน้อย ก็พอจะทำให้ลบปมพล็อตเรื่องได้ พระเอกโหด ดุ เจ้าชู้ แต่ก็ยังมุมน่ารักๆ ให้ได้ยิ้มกันเรื่อยๆ โดยเฉพาะเวลาอยู่กับนางเอก ส่วนนางเอกก็ปลอมเป็นผู้ชายแต่กลับไม่ทิ้งกิริยาแบบผู้หญิง ชอบพูดชอบค้อนจนโดนพระเอกค่อนแคะว่าไม่ใช่ผู้ชายแท้อยู่เรื่อยๆ ถ้าอยากอ่านนิยายแบบเบาๆ หนังสือนิยายเรื่องจอมใจมาเฟียก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี

หนังสืออีกเล่มที่อ่านเพลินค่ะ อ่านไปยิ้มไป พล็อตเรื่องอาจจะไม่ใหม่ คือนางเอกปลอมเป็นชายหนุ่มตามคำสั่งของเจ้านายเอาแต่ใจตัวที่สั่งให้ อรสา พี่สาวนางเอกซึ่งเป็นเลขานุการของ เฉินป๋อหลิน พระเอกหาเลขาส่วนตัวที่เป็นผู้ชายให้เขาอย่างด่วนที่สุด เมษิยานี นักศึกษาจบใหม่จึงต้องปลอมเป็นเลขาหน้าหวานที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดกับ เฉินป๋อหลิน ลูกชายมาเฟียใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง ผู้ซึ่งเจ้าชู้ มากมายด้วยสาวสวยเซ็กซี่แวดล้อม ถึงขนาดที่พามาพลอดรักกันในห้องทำงาน โดยไม่เกรงใจเลขาหนุ่มของเขาทั้งสิ้น แต่ทว่าเขากลับรู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดเลขาหนุ่มหน้าหวาน จนเขาเองก็บอกไม่ถูกและเกือบเข้าใจผิดว่าตัวเองชอบเพศเดียวกัน แต่ความลับก็ไม่มีในโลก พระเอกรู้และยิ่งกว่ารู้คือเขาหลงรักเลขาของเขาเสียแล้ว โดยรวมนิยายเรื่องนี้คืออ่านสนุก ได้ครบรส ทั้งฮา ดราม่า มีแอ็คชั่นอีกด้วย (พระเอกเป็นลูกมาเฟีย ก็ต้องบู๊กันเป็นธรรมดา) และถึงแม้อย่างที่บอกไปว่าพล็อตเรื่องไม่ได้ใหม่นัก แต่ผู้เขียนก็เขียนได้สนุก อ่านเพลิน น่าติดตามตลอดทั้งเล่ม ด้วยภาษาง่ายๆ เล่าเรื่องกระชับ มีฉากรักให้ได้ตื่นเต้นเล็กน้อย ก็พอจะทำให้ลบปมพล็อตเรื่องได้ พระเอกโหด ดุ เจ้าชู้ แต่ก็ยังมุมน่ารักๆ ให้ได้ยิ้มกันเรื่อยๆ โดยเฉพาะเวลาอยู่กับนางเอก ส่วนนางเอกก็ปลอมเป็นผู้ชายแต่กลับไม่ทิ้งกิริยาแบบผู้หญิง ชอบพูดชอบค้อนจนโดนพระเอกค่อนแคะว่าไม่ใช่ผู้ชายแท้อยู่เรื่อยๆ ถ้าอยากอ่านนิยายแบบเบาๆ หนังสือนิยายเรื่องจอมใจมาเฟียก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี

นิยายแนวคลุมถุงชนที่เป็นเรื่องราวต่อจากคู่บรรดาพ่อแม่ที่อยากให้ลูกๆ ได้ลงเอยกัน ในเรื่องมีทั้งหมดสามคู่สามอารมณ์ คู่แรกออกแนวไม้เบื่อไม้เมากัน รมิดาและชนาธิป เพราะพระเอกก็ร้ายแต่นางเอกร้ายกว่า คู่นี้จะแนวตบจูบๆ ก็น่ารักดี คู่ต่อมาเป็นหนุ่มเจ้าชู้จอมกะล่อนแต่กลับมาหลงรักสาวหวานแสนเรียบร้อย เตชิตชิตกับพลอยไพลิน คู่นี้ไม่แค่หลงรักเปล่า ฝ่ายชายกลับปล้ำพลอยไพลินด้วยคิดว่าถ้าได้เธอเป็นของเขาแล้วจะทำให้เธอรักเขา ตรงกันข้าม พลอยไพลินกลับยิ่งเกลียดขี้หน้าเตชิตมากขึ้น คู่สุดท้ายชายหนุ่มผู้ประกาศลั่นว่าจะไม่มีวันหลงรักลูกสาวของบรรดาพ่อแม่เขาเด็ดขาด มนัญชยา และกวินท์ แต่แล้วทั้งคู่กลับแพ้หัวใจตัวเองจากความใกล้ชิดและความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน ปากก็พูดว่าไม่รัก แต่ใจกลับมีแต่ความคิดถึง เรื่องราวความรักชุลมุนวุ่นวายแต่แสนน่ารักและโรแมนติกจึงเกิดขึ้น นับว่าเป็นนิยายที่น่าติดตามอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน มีทั้งดราม่า สนุกสนาน ลุ้นและฟินไปกับเหล่าพระนาง แถมฉากโรมานซ์ชวนจิ้น อ่านไปจิกหมอนไปเลยทีเดียว งานนี้เรียกว่าบรรดาพ่อแม่ของแต่ละคนไม่ต้องเหนื่อยจับคู่อย่างที่คิด เพราะลูกๆ ก็รักกันเอง แต่ก็มีข้อตินะเวลาอ่านไปอาจจะงงๆ อยู่สักหน่อยหากไม่ชอบตัวละครที่หลายคู่ เพราะอาจจะทำให้ดูวุ่นวาย และตัวละครฝ่ายหญิงก็ต้องมีชื่อนำหน้าว่าหนูตลอด บางทีก็รำคาญตรงนี้ แต่หากไม่ติดเรื่องนี้ก็เป็นนวนิยายที่น่าติดตามอีกเรื่องเช่นกัน

นิยายแนวคลุมถุงชนที่เป็นเรื่องราวต่อจากคู่บรรดาพ่อแม่ที่อยากให้ลูกๆ ได้ลงเอยกัน ในเรื่องมีทั้งหมดสามคู่สามอารมณ์ คู่แรกออกแนวไม้เบื่อไม้เมากัน รมิดาและชนาธิป เพราะพระเอกก็ร้ายแต่นางเอกร้ายกว่า คู่นี้จะแนวตบจูบๆ ก็น่ารักดี คู่ต่อมาเป็นหนุ่มเจ้าชู้จอมกะล่อนแต่กลับมาหลงรักสาวหวานแสนเรียบร้อย เตชิตชิตกับพลอยไพลิน คู่นี้ไม่แค่หลงรักเปล่า ฝ่ายชายกลับปล้ำพลอยไพลินด้วยคิดว่าถ้าได้เธอเป็นของเขาแล้วจะทำให้เธอรักเขา ตรงกันข้าม พลอยไพลินกลับยิ่งเกลียดขี้หน้าเตชิตมากขึ้น คู่สุดท้ายชายหนุ่มผู้ประกาศลั่นว่าจะไม่มีวันหลงรักลูกสาวของบรรดาพ่อแม่เขาเด็ดขาด มนัญชยา และกวินท์ แต่แล้วทั้งคู่กลับแพ้หัวใจตัวเองจากความใกล้ชิดและความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน ปากก็พูดว่าไม่รัก แต่ใจกลับมีแต่ความคิดถึง เรื่องราวความรักชุลมุนวุ่นวายแต่แสนน่ารักและโรแมนติกจึงเกิดขึ้น นับว่าเป็นนิยายที่น่าติดตามอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน มีทั้งดราม่า สนุกสนาน ลุ้นและฟินไปกับเหล่าพระนาง แถมฉากโรมานซ์ชวนจิ้น อ่านไปจิกหมอนไปเลยทีเดียว งานนี้เรียกว่าบรรดาพ่อแม่ของแต่ละคนไม่ต้องเหนื่อยจับคู่อย่างที่คิด เพราะลูกๆ ก็รักกันเอง แต่ก็มีข้อตินะเวลาอ่านไปอาจจะงงๆ อยู่สักหน่อยหากไม่ชอบตัวละครที่หลายคู่ เพราะอาจจะทำให้ดูวุ่นวาย และตัวละครฝ่ายหญิงก็ต้องมีชื่อนำหน้าว่าหนูตลอด บางทีก็รำคาญตรงนี้ แต่หากไม่ติดเรื่องนี้ก็เป็นนวนิยายที่น่าติดตามอีกเรื่องเช่นกัน

ม่วนอ๊กม่วนใจ๊ตลอดทริปต้องเล่มนี้ หนังสือท่องเที่ยวดีๆ จาก B-WOWS เล่มเดียวครบ เที่ยว กิน พัก ช้อป พ็อกเก็ตไกด์นำเที่ยวสี่สีสวยสดที่แนะนำที่เที่ยวเมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน ปาย ปางอุ๋ง เริ่มตั้งแต่วิธีเดินทางจากกรุงเทพฯ จนไปยังจุดหมายต่างๆ ทั้งวิธีขับรถไปด้วยตนเอง นั่งรถไฟ ไปเครื่องบิน หรือจะรถทัวร์ก็ยังมี พร้อมเบอร์โทรศัพท์สถานที่สำคัญๆ เผื่อฉุกเฉินก็โทรขอความช่วยเหลือได้เลย นอกจากนี้ยังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดว้าวของแต่ละที่ นำเสนอพร้อมภาพประกอบสวยงาม เนื้อหาอ่านเข้าใจง่าย มีแผนที่และพิกัดการเดินทางให้ยิ่งสะดวกมากขึ้น รับรอง! ไปทริปนี้ไม่มีหลง นอกจากนี้ยังมีที่พักน่ารักราคาน่าคบไว้เป็นตัวเลือกอีกเพียบ สะดวกที่ไหนเลือกตามที่คัดมาได้เลยจ้า เที่ยวเหนื่อย นอนหลับ ก็ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ไว้แนะนำ แต่ละเจ้าบีวาวก็คัดมาอย่างดีว่าเป็นร้านอร่อยอันดับต้นๆ ที่ถ้ามาเที่ยวเมืองสามหมอกแห่งนี้ละก็ห้ามพลาด!!! พร้อมประมาณราคาอาหารให้เราคำนวณงบในกระเป๋าได้อีกด้วย และได้มาเที่ยวทั้งทีจะขาดของที่ระลึกก็จะว่ามาไม่ถึง ภายในเล่มก็แนะนำแหล่งช้อปของฝากทั้งของพื้นเมือง เสื้อยืดสกรีนเท่ๆ งานแฮนด์เมดเก๋ๆ เอาไว้คิดถึงช่วงเวลาแห่งความประทับใจ และห้ามลืมก็คือส่งโปสการ์ดสวยๆ ไปฝากเพื่อนๆ ด้วยนะจ๊ะ เรียกได้ว่าถ้าจะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนละก็มีเล่มนี้เล่มเดียวเอาอยู่! อ้อๆ ที่จะลืมไม่ได้ก็คือเล่มนี้เนี่ยเขามี Index ท้ายเล่มให้ด้วยจ้า อยากเปิดหาข้อมูลที่ไหน เรื่องอะไรก็ค้นได้ทันใจรวดเร็วจริงๆ ถ้าจะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ปาย ปางอุ๋ง ละก็พกเล่มนี้ไปด้วยรับรองทริปนี้ดี๊ดี

ม่วนอ๊กม่วนใจ๊ตลอดทริปต้องเล่มนี้ หนังสือท่องเที่ยวดีๆ จาก B-WOWS เล่มเดียวครบ เที่ยว กิน พัก ช้อป พ็อกเก็ตไกด์นำเที่ยวสี่สีสวยสดที่แนะนำที่เที่ยวเมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน ปาย ปางอุ๋ง เริ่มตั้งแต่วิธีเดินทางจากกรุงเทพฯ จนไปยังจุดหมายต่างๆ ทั้งวิธีขับรถไปด้วยตนเอง นั่งรถไฟ ไปเครื่องบิน หรือจะรถทัวร์ก็ยังมี พร้อมเบอร์โทรศัพท์สถานที่สำคัญๆ เผื่อฉุกเฉินก็โทรขอความช่วยเหลือได้เลย นอกจากนี้ยังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดว้าวของแต่ละที่ นำเสนอพร้อมภาพประกอบสวยงาม เนื้อหาอ่านเข้าใจง่าย มีแผนที่และพิกัดการเดินทางให้ยิ่งสะดวกมากขึ้น รับรอง! ไปทริปนี้ไม่มีหลง นอกจากนี้ยังมีที่พักน่ารักราคาน่าคบไว้เป็นตัวเลือกอีกเพียบ สะดวกที่ไหนเลือกตามที่คัดมาได้เลยจ้า เที่ยวเหนื่อย นอนหลับ ก็ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ไว้แนะนำ แต่ละเจ้าบีวาวก็คัดมาอย่างดีว่าเป็นร้านอร่อยอันดับต้นๆ ที่ถ้ามาเที่ยวเมืองสามหมอกแห่งนี้ละก็ห้ามพลาด!!! พร้อมประมาณราคาอาหารให้เราคำนวณงบในกระเป๋าได้อีกด้วย และได้มาเที่ยวทั้งทีจะขาดของที่ระลึกก็จะว่ามาไม่ถึง ภายในเล่มก็แนะนำแหล่งช้อปของฝากทั้งของพื้นเมือง เสื้อยืดสกรีนเท่ๆ งานแฮนด์เมดเก๋ๆ เอาไว้คิดถึงช่วงเวลาแห่งความประทับใจ และห้ามลืมก็คือส่งโปสการ์ดสวยๆ ไปฝากเพื่อนๆ ด้วยนะจ๊ะ เรียกได้ว่าถ้าจะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนละก็มีเล่มนี้เล่มเดียวเอาอยู่! อ้อๆ ที่จะลืมไม่ได้ก็คือเล่มนี้เนี่ยเขามี Index ท้ายเล่มให้ด้วยจ้า อยากเปิดหาข้อมูลที่ไหน เรื่องอะไรก็ค้นได้ทันใจรวดเร็วจริงๆ ถ้าจะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ปาย ปางอุ๋ง ละก็พกเล่มนี้ไปด้วยรับรองทริปนี้ดี๊ดี